ประวัติองค์กร

ในปี พ.ศ.2526 ประชาชนหมู่บ้านกิ่วจันทร์ (ซึ่งเดิมตั้งถิ่นฐานที่บ้านง้อมเปา) ได้เข้ามอบตัว กับทางราชการเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย แล้วได้อพยพมาตั้งถิ่นฐาน ณ ที่ตั้งหมู่บ้านในปัจจุบัน โดยเป็นคำแนะนำของทหารและมีทหารมาตั้งฐานปฏิบัติการเพื่อดูแลความเรียบร้อยมั่นคงในหมู่บ้านและได้จัดชุดมวลชนทำการสอนหนังสือแก่เด็ก ในหมู่บ้านควบคู่ไปด้วยโดยจัดการสอนเพื่อให้เด็กได้เข้าใจในการใช้ภาษาไทยในการสื่อสารและการคิดคำนวณเบื้องต้นเท่านั้น

ประมาณต้นปี พ.ศ.2534 ท่านพระครูถาวรสันติคุณและคณะสงฆ์จากจังหวัดนครปฐมที่เป็นคณะพระธรรมฑูต ได้มาจัดสร้างอาคารเรียนแบบชั่วคราวให้แก่หมู่บ้าน 1 หลัง เพื่อใช้เป็นที่เรียนของเด็ก

ในปีการศึกษา 2534 โรงเรียนบ้านน้ำช้างพัฒนา ซึ่งมีนายประเสริฐ สอนสิงห์ ทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งครูใหญ่ ได้มาขยายเขตบริการรับเด็กในหมู่บ้านกิ่วจันทร์เข้าเรียน โดยจัดตั้ง เป็นโรงเรียนสาขา ชื่อ “ โรงเรียนบ้านน้ำช้างพัฒนา สาขาบ้านกิ่วจันทร์” โดยทำพิธีเปิดเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2534 มีนายประเสริฐ สอนสิงห์ เป็นครูผู้สอนคนแรก ปีการศึกษา 2538 โรงเรียนร่วมกับหมู่บ้านได้วางแผนย้ายที่ตั้งของโรงเรียนจากที่เดิม(อยู่กลางหมู่บ้าน) ที่มีความคับแคบมาก ไปตั้ง ณ ที่ดินสาธารณะของหมู่บ้านทางทิศใต้ของหมู่บ้าน มีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่

วันที่ 20 มกราคม 2538 ท่านพระครูถาวรสันติคุณ และพระอาจารย์บุญช่วย พร้อมคณะสงฆ์-ศิษย์วัดประชานารถและวัดกลางบางแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ได้จัดสร้างอาคารเรียนแบบกึ่งถาวร “อาคารเสรินทวัฒน์” ขนาด 5 ห้องเรียน (ห้องเรียนขนาดย่อม 6 x 6 เมตร) จำนวน 1 หลัง โดยคุณแม่สว่าง เสรินทวัฒน์ และคณะเป็นผู้บริจาคทุนซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้าง เป็นเงิน 499,000 บาท รวมค่าแรงงาน และค่าครุภัณฑ์ ราคาอาคารเรียนทั้งสิ้น 679,000 บาท และได้มอบเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2540

วันที่ 5 เมษายน 2539 คณะกรรมการการประถมศึกษาจังหวัดน่านได้ประกาศ จัดตั้งโรงเรียนบ้านกิ่วจันทร์เป็นโรงเรียนเอกเทศ ชื่อ “โรงเรียนบ้านกิ่วจันทร์” ประกาศ ณ วันที่ 26 กันยายน 2539

วันที่ 18 มิถุนายน 2541 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จเยี่ยมนักเรียนและประชาชนและทอดพระเนตรผลการดำเนินงานในโครงการตามพระราชดำริฯ ของโรงเรียนบ้านกิ่วจันทร์ เป็นที่ซาบซึ้งในพระมาหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อนักเรียน คณะครูและประชาชนบ้านกิ่วจันทร์เป็นอย่างยิ่ง